ขณะที่การเลือกตั้งมีขึ้นท่ามกลางฝนตกหนัก บางพื้นที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ส่วนในบางพื้นที่ที่ระดับน้ำเริ่มลดลง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่างออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่อง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซียกำลังเข้าคิวเพื่อรับบัตรเลือกตั้งที่คูหาแห่งหนึ่ง ท่ามกลางฝนตกหนัก
ฝนที่ตกหนักทำให้การเลือกตั้งในหลายพื้นที่ขลุกขลัก รถพยาบาลและรถจักรยานยนต์หลายคันจมน้ำ หลายคนต้องเดินลุยน้ำและหอบกล่องหย่อนบัตรเลือกตั้งไปยังจุดที่ปลอดภัยกว่า
อินโดนีเซียใช้ Deepfake AI ปลุกชีพนายพลเผด็จการช่วยหาเสียงเลือกตั้ง
ชาวอินโดนีเซีย ตื่นตัวเลือกตั้งใหญ่ 14 ก.พ.นี้
นอกเหนือจากที่กรุงจาการ์ตาเมืองหลวง ฝนที่ตกหนักทำให้หน่วยเลือกตั้งบางหน่วย เช่นในจังหวัดชวากลางเลื่อนการเลือกตั้งชั่วคราว
สภาพของเขตเดอมัก ในจังหวัดชวากลางที่เผชิญกับระดับน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำลึกเกือบ 5 เมตร ทั้งบ้านเรือนของประชาชนและหน่วยเลือกตั้งจมอยู่ใต้บาดาล ส่งผลให้เอกสารการเลือกตั้งจำนวนมากเสียหาย
อาหมัด ริไฟ หัวหน้าคณะกรรมการเลือกตั้งในเขตการารังกันยาร์บอกว่า ระดับน้ำที่ยังคงไม่ลดลง ส่งผลทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอย่างน้อย 21,000 คนไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้
นอกจากนี้ผู้คนในหลายหมู่บ้านยังประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ทำให้ไม่สามารถใช้สมาร์ทโฟนเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการลงคะแนนเสียงได้ ด้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมบอกว่า พวกเขายังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เกี่ยวกับกระบวนการลงคะแนนเลือกตั้ง และตอนนี้ก็ทราบเพียงแค่ว่าการลงคะแนนเสียงต้องล่าช้าออกไปอีก
นอกเหนือจากอุปสรรคจากฝนที่ตกหนักในหลายจุดแล้ว การเลือกตั้งอินโดนีเซียยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากพื้นที่สภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะกว่า 17,000 เกาะ และหลายจุดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทั้งหมดเพิ่มความซับซ้อนในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งในการเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าว ตลอดจนการส่งอุปกรณ์และบัตรเลือกตั้ง ที่บางจุดเข้าถึงได้เฉพาะทางเรือ บางจุดต้องใช้สัตว์อย่างช้างในการขนส่ง
นี่คือส่วนหนึ่งของความโกลาหลและความท้าทายในวันการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่ของอินโดนีเซีย ซึ่งถูกขนานนามว่า เป็นการเลือกตั้งวันเดียวที่ใหญ่ที่สุด และซับซ้อนที่สุดในโลก ในคราวนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 205 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 270 ล้านคน การเลือกตั้งทำตั้งแต่ระดับชาติคือการเลือกประธานาธิบดีไปจนถึงการเลือกตัวแทนระดับท้องถิ่น
โดยจุดที่คนจับตามองมากที่สุดคือ การเลือกประธานาธิบดี ว่าใครจะขึ้นมาแทน หลังจาก โจโก วิโดโด ผู้นำคนปัจจุบันดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 2 สมัย หรือ 10 ปี ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้แล้วคำพูดจาก อันดับ1 เว็บสล็อตตรง
ชาวอินโดนีเซียที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ต่างหวังว่า ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งครั้งนี้ จะตระหนักถึงคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
การเลือกตั้งที่หลายฝ่ายจับตามองคือ การเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งในคราวนี้มีแคนดิเดตที่สำคัญ 3 คน คนแรกคือ ปราโบโว ซูเบียนโต อดีตนายทหาร และลูกเขยของซูฮาร์โต อดีตผู้นำเผด็จการของอินโดนีเซีย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยซูเบียนโต ลงชิงตำแหน่งผู้นำเป็นครั้งที่ 3 หลังพ่ายแพ้ให้กับ โจโกวี มา 2 หน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2014 และ ปี 2019
ในคราวนี้ ซูเบียนโตดึงตัว กิบราน ราคาบูมิง ราคา (Gibran Rakabuming Raka) ลูกชายคนโตของประธานาธิบดีโจโกวีมาเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี เพื่อกวาดคะแนนนิยมจากประชาชนที่ชื่นชอบประธานาธิบดีโจโกวี ซึ่งในคราวนี้ไม่ได้ลงเลือกตั้ง
แคนดิเดทคนที่ 2 คือ กันจาร์ ปราโนโว อดีตผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง วัย 55 ปี จากพรรค Indonesian Democratc Party of Struggle ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
และสุดท้ายคือ อานีส บาสเวดัน อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา วัย 54 ปี เป็นผู้สมัครที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง แต่ได้รับการสนับสนุนจากแนวร่วม 3 พรรคที่ชื่อ Coalition of Change for Unity
สำหรับบรรยากาศทั่วไปหลังเปิดคูหา ประชาชนทยอยมาใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคักนอกเหนือจากประชาชน บุคคลทางการเมืองdHทยอยมาใช้สิทธิ์ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโจโกวี ผู้นำอินโดนีเซียคนปัจจุบัน รวมถึง ปราโบโว ซูเบียนโต ตัวเต็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในคราวนี้ก็ได้เดินทางไปลงคะแนนเสียงตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนกันจาร์ ปราโนโว และ อานีส บาสเวดัน ก็เดินทางไปใช้สิทธิ์แต่เช้าเช่นเดียวกัน
ในส่วนของ อานีส บาสเวดัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า การเปลี่ยนแปลงกำลังจะมาถึงแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแบบทดสอบครั้งสำคัญของประชาธิปไตยของอินโดนีเซียหลังจากหลุดออกจากระบบเผด็จการมาได้ครบ 26 ปี
อินโดนีเซีย เคยอยู่ภายใต้การปกครองของเผด็จการมาก่อน ช่วงที่ยาวนานที่สุดคือ ช่วงที่ประธานาธิบดีซูฮาร์โตครองอำนาจที่เริ่มตั้งแต่ปี 1967-1998 ช่วง 32 ปีของการอยู่ในอำนาจ ซูฮาร์โตปกครองประเทศอย่างกดขี่ นักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยถูกปราบปรามและสูญหายจำนวนมาก ข้อมูลจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า มีคนมากกว่า 500,000 คนถูกจับในช่วงที่เขามีอำนาจ
ในช่วงเวลาดังกล่าว ซูเบียนโต ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นตัวเต็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และเป็นลูกเขยของซูฮาร์โต ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนวางแผนและทำให้นักกิจกรรมทางการเมืองหลายคนหายตัวไป
การปกครองภายใต้ซูฮาร์โตยังเต็มไปด้วยการเล่นพรรคเล่นพวก มีการเอื้อประโยชน์มากมายมหาศาลให้กับญาติพี่น้องและผองเพื่อน อาณาจักรธุรกิจของเครือข่ายซูฮาร์โตแทรกซึมเข้าไปในทุกภาคส่วนเศรษฐกิจของประเทศ นับตั้งแต่แท็กซี่สนามบิน สถานีโทรทัศน์ และสัมปทานเหมืองแร่ ส่วนเงินที่ได้จากการขายน้ำมันจำนวนมหาศาลก็ถูกยักยอกถ่ายเข้ากระเป๋าผู้นำ
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) กล่าวหาซูฮาร์โตว่ายักยอกเงินรัฐไปมากถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
การปกครองแบบกดขี่ของซูฮาร์โต มาถึงจุดสิ้นสุดหลังประชาชนจำนวนมากทนไม่ไหวและออกมาประท้วงใหญ่ตามท้องถนน ส่งผลให้เขาต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งในปี 1998 ถึงแม้จะโค่นล้มซูฮาร์โตสำเร็จ แต่คนจำนวนมากยังกังวลถึงความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะการกลับเข้าไปสู่วงจรของความขัดแย้งรุนแรง
อินโดนีเซียมีประชากรกลุ่มชาติพันธุ์ถึง 300 กลุ่ม ซึ่งบางคนเตือนว่า อินโดนีเซียอาจล่มสลายได้หากปราศจากการปกครองของ Strong Man อย่างซูฮาร์โตอย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นหลังยุคซูฮาร์โตไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนหวาดกลัว เกิดการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ โดยเป็นการปฏิรูปทุกด้านตามข้อเรียกร้องของประชาชน
ในส่วนของการปฏิรูปการเมือง ที่สำคัญคือ อำนาจของประธานาธิบดีถูกถ่วงดุลมากขึ้นจากฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ เปลี่ยนระบบการเลือกตั้งให้ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งโดยตรง รวมถึงมีการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นเพื่อให้แต่ละพื้นที่มีอำนาจมากขึ้นในการจัดการกับทรัพยากรของตนเอง
อีกหนึ่งการปฎิรูปที่สำคัญคือ การปฏิรูปกองทัพ ซึ่งซูฮาร์โตเคยใช้เป็นฐานอำนาจที่สำคัญ มีการแยกทหารออกจากการเมือง และ การเมืองหลังยุคซูฮาร์โต คือการเมืองยุคระเบียบใหม่ของอินโดนีเซีย
ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียสามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างราบรื่น ประชาธิปไตยที่เบ่งบานนำไปสู่ระบบราชการที่โปร่งใสมากยิ่งขึ้น ระบบเศรษฐกิจและระบบภาษีที่ทันสมัยจนทำให้อินโดนีเซียถูกจัดว่าเป็นประเทศน่าลงทุนที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่กำลังที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเป็นบททดสอบที่สำคัญของประชาธิปไตยในอินโดนีเซีย เพราะเกิดขึ้นท่ามกลางข้อสงสัยหลายประการ หนึ่งในนั้นคือ การที่ ประธานาธิบดีโจโกวี ผู้นำคนปัจจุบันถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจและอิทธิพลช่วยให้ซูเบียนโตและลูกชายชนะเลือกตั้ง
อีกเรื่องที่สำคัญคือ ความมัวหมองในอดีตของซูเบียนโต ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการหายตัวไปของนักเรียกร้องประชาธิปไตยหลายสิบคนในสมัยที่ซูฮาร์โตซึ่งเป็นพ่อตาเรืองอำนาจ ในช่วงของการหาเสียง ซูเบียนโตฉายภาพตนเองว่าเป็นคนที่น่ารัก เข้าถึงง่าย แต่หลายคนระบุว่า คาดเดาได้ยากว่าหากได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีแล้วเขาจะปกครองประเทศอย่างไร ซูเบียนโตซึ่งมีมลทินจากอดีตจะสานต่อการเมืองในยุคระเบียบใหม่ต่อไปหรือไม่
ตามกฎเลือกตั้งของอินโดนีเซีย ผู้ที่ชนะในตำแหน่งประธานาธิบดีต้องได้คะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหรือมากกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเสียงทั้งหมด และต้องได้คะแนนที่ถึงเกณฑ์ในระดับจังหวัดด้วย
ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีทั้งหมด 38 จังหวัด ผู้ที่เป็นประธานาธิบดีต้องได้คะแนนอย่างน้อยร้อยละ 20 ใน 20 จังหวัดขึ้นไป หากคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ดังกล่าว ผู้ที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 และ 2 ต้องมาแข่งกันในการเลือกตั้งรอบที่ 2 ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 26 มิถุนายน 2024
ขณะที่ล่าสุด การลงคะแนนเสียงเสร็จสิ้นลงแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำการนับคะแนนโหวต โดยในเบื้องต้น ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการแสดงให้เห็นว่า ซูเบียนโต กำลังจะกำชัยชนะในศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ให้จบได้ภายในรอบเดียว และอาจได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 60
ทั้งนี้มีการคาดการณ์คะแนนเสียงจำนวนมากที่ซูเบียนโตได้รับ ว่ามาจากคนอายุต่ำกว่า 40 ปีซึ่งมีจำนวนถึงร้อยละ 50 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งไม่ค่อยสนใจเรื่องเล่าเกี่ยวกับอดีตของซูเบียนโต ที่ระบุว่าเขาเป็นผู้วางแผนลักพาตัวนักเคลื่อนไหวและละเมิดสิทธิมนุษยชนในสมัยที่ซูฮาร์โตปกครองประเทศ
ขณะที่ กันจาร์ ปราโนโว ผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ออกมาบอกผู้สนับสนุนของเขาให้สงบสติอารมณ์ และรอการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้งทั่วไปก่อน
เช่นเดียวกับ อานีส บาสเวดัน ผู้ท้าชิงอีกคนหนึ่งที่เปิดเผยกับสำนักข่าวอัลจาซีราว่า ควรรอให้การนับคะแนนจากคณะกรรมการการเลือกตั้งเสร็จสิ้นทั้งหมดก่อน แต่เขายังมองในแง่บวกที่ว่า การเลือกตั้งอาจไม่จบที่รอบนี้ และคาดว่าชื่อของเขาจะเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่ 2
เปิดความหมาย "ดอกกุหลาบ" และ 40 ความหมายดอกไม้รับ "วันวาเลนไทน์"
104 แคปชัน-คำอวยพร วาเลนไทน์ 2567 ประโยคเด็ดบอกสถานะ โสด มีคู่ อกหัก
ทำความเข้าใจกฎหมาย “ครอบครองปรปักษ์” ก่อนสูญเสียที่ดินให้คนอื่นไม่รู้ตัว