ปฏิทินวันหยุด "มีนาคม 2567" เช็กวันหยุด-วันสำคัญ-วันจ่ายเงินต่างๆ
อิสราเอลเชื่อ ฮามาสอาจก่อเหตุใหญ่อีกรอบในเดือนรอมฎอน
ในทุกๆ ปี ศาสนิกชนชาวมุสลิมจะปฏิบัติภารกิจ “ถือศีลอด” ใน “เดือนรอมฎอน” เป็นระยะเวลา 29-30 วันตามหลักความเชื่อทางศาสนา ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมที่คุ้นเคยของประชาชนต่างศาสนาเป็นอย่างดี แต่ในปีนี้นั้นจะตรงกับวันที่เท่าไรถึงเท่าไร และมีประวัติความเป็นมาความสำคัญอย่างไรบ้าง วันนื้ทีมข่าวพีพีทีวีจึงได้รวบรวมข้อมูลมาให้คำพูดจาก สล็อต777
“เดือนรอมฎอน” ตรงกับวันที่เท่าไร
จุฬาราชมนตรี กำหนดวันเพื่อดูดวงจันทร์ในวันที่ 10 มี.ค. 2567 หากในวันและเวลาดังกล่าวมีผู้เห็นดวงจันทร์แล้ว
คณะกรรมการประจำจังหวัดจะตรวจสอบและรายงานผลการดูดวงจันทร์มายังจุฬาราชมนตรีต่อไป แล้วจะมีการพิจารณาเพื่อออกประกาศวันเริ่มต้นของ "เดือนรอมฎอน" ให้ทราบโดยทั่วกัน
โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันแรกของการเข้าสู่เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1445 นั้น ปรากฏว่าหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในวันและเวลาดังกล่าวนั้น "ไม่มีผู้พบเห็นดวงจันทร์"
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ในวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอนนั้น จะตรงกับ "วันที่ 12 มีนาคม 2567"
จุฬาราชมนตรี ประกาศ 12 มี.ค. 67 เริ่มนับวันที่ 1 "เดือนรอมฎอน"
ประวัติของ “เดือนรอมฎอน”
“รอมฎอน” ที่จริงแล้วไม่ใช่ชื่อของเทศกาลหรือธรรมเนียมใดๆ แต่เป็นชื่อเรียกเดือนที่ 9 ในปฏิทินฮิจเราะญ์ หรือปฏิทินจันทรคติของอิสลาม ถือเป็นเดือนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าพระผู้เป็นเจ้าประทาน “พระคัมภีร์อัลกุรอาน” ลงมาให้แก่ “นบีมูฮัมหมัด” ศาสดาของศาสนาอิสลาม เพื่อใช้สั่งสอนและเป็นเครื่องชี้ทางให้แก่อิสลามิกชนทั่วโลก
โดยในพระคัมภีร์ระบุว่าวันที่พระเจ้าประทานอัลกุรอานให้แก่นบีมูฮัมหมัด คือช่วงวันที่ 26-27 ของเดือนรอมฎอน
ด้วยเหตุนี้ชาวมุสลิมจึงถือว่าเดือนรอมฎอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ชาวมุสลิมทุกคนจึงต้องรักษาศีล อดอาหาร เพื่อฝึกฝนการบังคับตนเองและเพื่อให้เข้าถึงคำสอนของนบีมูฮัมหมัดให้ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รวมถึงใช้เวลาในการศึกษาพระคัมภีร์อัลกุรอานอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษเพื่อ เป็นการบูชาพระเป็นเจ้า จนทำให้เดือนนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างในภาษาไทยว่า “เดือนบวช”
ความสำคัญของ “เดือนรอมฎอน”
การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ถือศีลอดได้สัมผัสและรับรู้ถึงความทุกข์ยากลำบาก ได้เรียนรู้ถึงอุปสรรรคต่างๆ ของการดำเนินชีวิต เพื่อให้ผู้ถือศีลนั้นรู้จักอดกลั้นอดทนต่อความทุกข์ยากต่างๆ ด้วยความพากเพียรและสติปัญญา
โดยจะช่วยฝึกฝนจิตใจของชาวมุสลิมทุกคนให้เป็นผู้มีสติ หนักแน่น มีจิตใจอดทนอดกลั้น ทั้งต่อความหิวโหย ต่อความโกรธ ความปรารถนาแห่งอารมณ์ และสิ่งยั่วยวนนานับประการ
และผลที่ได้จากความเพียร อาจนำไปสู่การพัฒนาตนเองไปในทางที่ดี มีความใฝ่สูงด้านจิตใจอยู่ตลอดเวลา จิตสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน และพร้อมที่จะเผชิญและฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ นานา มุ่งสู่ความสำเร็จ
การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิมจึงมีประโยชน์อย่างต่อการดำเนินชีวิต ต่อหน้าที่การงาน และกิจวัตรประจำวันของชาวมุสลิม นอกเหนือไปจากความยำเกรง และศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะได้ใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้า
หลักปฏิบัติในการถือศีลอด
ตลอดช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งกินเวลา 29-30 วัน หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ชาวมุสลิมจะปฏิบัติศาสนกิจเพื่ออัลเลาะห์ ไม่ใช่เพียงแค่การอดอาหาร หรือการงดเว้นเครื่องดื่มเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงการเตรียมใจให้พร้อมที่จะแสดงความจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ด้วยการงดเว้นจากการทำบาปทั้งปวง เพราะไม่เช่นนั้นหากนึกถึงแต่การอดอาหาร การคิดแต่เรื่องจัดเตรียมงบเอาไว้จัดซื้ออาหารเตรียมไว้ เดือนรอมฎอนอาจกลายเป็นเทศกาลแห่งการกินที่สูญเปล่าแทน
ดังนั้นแล้วชาวมุสลิมจะยิ่งเข้มงวดระมัดระวังตัวเองไม่ให้เกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามของศาสนา รวมถึงเคร่งครัดในการอ่านอัลกุรอาน การละหมาด และการเตรียมงบประมาณสำหรับจัดเลี้ยงละศีลอดหรือบริจาคทานด้วย
อย่างไรก็ตามหลักในการปฏิบัตินี้ จะใช้ในกลุ่มผู้มีความพร้อมเท่านั้น กลุ่มผู้เจ็บไข้ได้ป่วย คนชรา หรือหญิงมีครรภ์ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือคนเดินทาง สามารถละเว้นได้
สิ่งทีควรทำในการถือศีลอด
สรุปได้มีดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารซุโฮร์ให้ใกล้หมดเวลา และรีบแก้ศีลอดเมื่อเข้าเวลา
- ไม่พูดนินทา ไม่คิดร้าย ทำใจให้สงบ อ่านอัลกุรอ่าน
- เคี้ยวอาหารช้าๆ ห้าสิบครั้งต่อคำ ควรทานอาหารไม่อิ่มแน่นมาก
- ดื่มน้ำสะอาดมากๆ หลังรับประทานอาหาร
- รับประทานอาหารเหมือนปกติ ไม่ควรเพิ่มอาหารมาก
- เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- ไปละหมาดตะรอเวียะฮ์ (การละหมาดในเดือนรอมฎอน) ทุกๆ วัน อย่างช้าๆ ไม่รีบ
- แบ่งปันอาหารหรือบริจาคทานให้ผู้ที่ถือศีลอด
- พยายามเลิกสิ่งเสพติดต่างๆ เช่น บุหรี่, ชา, กาแฟ ฯลฯ
- ควรตรวจร่างกายก่อนเข้าเดือนรอมฎอน และหลังจากสิ้นเดือนรอมฎอน
ข้อห้ามขณะถือศีลอด
ข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ ในช่วงเวลากลางวัน มีดังต่อไปนี้
- ห้ามกิน/ดื่ม อย่างไรก็ตามน้ำลายกลืนได้ไม่ห้าม
- ห้ามสูบบุหรี่
- ห้ามร่วมประเวณี
- ห้ามทำให้อาเจียน
- ห้ามเอาสิ่งใดเข้าไปจนลึกเกินบริเวณภายนอกในอวัยวะที่เป็นรู เช่น ปาก จมูก โดยเจตนาง
“รอมฎอน” ถือเป็นเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิม คล้ายกับการถือศีลของชาวพุทธ เพียงแต่ของอิสลามนั้นไม่ปฏิบัติไม่ได้ ยกเว้นกรณีพิเศษ เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย ตั้งครรภ์ หรืออายุไม่ถึง 15 ปี ถึงจะสามารถละเว้นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สำนักสารสนเทศ กอ.รมน.ภาค 4 สน.และจุฬาราชมนตรี
รวมอาหารไทย “คลายร้อน” เมนูโบราณที่เติมความสดชื่นได้เสมอ
ประวัติ “ข้าวแช่” อาหารคลายร้อนยอดฮิต เมนูอร่อยคู่เทศกาลสงกรานต์